ปลูกฝังนิสัยการออกกำลังกายให้ "ลูก"
ในยุคที่ใครๆ ตื่นตัวกับการออกกำลังกาย พ่อแม่ก็ต้องการให้ลูกเล่นกีฬา แต่บางครั้งเป็นการยากที่จะเคี่ยวเข็ญให้เด็กๆ ละสายตาจากจอโทรทัศน์ จากมือถือ หันไปหาสิ่งอื่นๆ
ดังนั้น ถึงพ่อแม่จะรู้ซึ้งถึงคุณค่าของการกีฬา ทว่าไม่อาจทำได้ดังใจ เพราะลูกเจ้ากรรมช่างดื้อรั้นกับความปรารถนาดีของพ่อแม่ ตัวอย่างที่เห็นกันบ่อยๆ คือ เด็กร้องไห้ไม่ยอมเรียนว่ายน้ำ หรือทะเลาะกับพ่อแม่เวลาถูกบังคับให้ออกกำลังกาย
ถ้าท่านมีปัญหาดังกล่าว ลองทำตามคำแนะนำต่อไปนี้
⚽ ทำตนเป็นตัวอย่างที่ดี เด็กจะปฏิบัติตามอย่างพ่อแม่มากกว่าคำเคี่ยวเข็ญหรือร้องขอ ฉะนั้น ถ้าอยากให้ลูกออกกำลังกาย ท่านควรเป็นผู้ปฏิบัติให้ลูกเห็นเสียก่อน
🏀 การออกกำลังกายควรเป็นเรื่องสนุกสนาน ไม่ว่าจะเป็นกายบริหาร หัดว่ายน้ำ หรือวิ่ง อย่าให้มีการฝืนใจ หรือทำให้เป็นเรื่องที่น่าเบื่อ
⚾ ใช้การกระตุ้นด้วยรางวัลที่เหมาะสม ซึ่งควรเกี่ยวข้องกับกิจกรรมกีฬา เช่น ซื้อกางเกงวิ่งตัวใหม่ หรือเสื้อชุดฟุตบอลโลกให้เป็นรางวัลเมื่อลูกทำได้ตามเป้าหมาย
🏈 อย่าได้น้อยอกน้อยใจถ้าลูกไม่สนใจ หรือแสดงอาการเบื่อหน่ายใน “ของดี” ที่เราพยายามมอบให้ เด็กย่อมเป็นเด็กวันยังค่ำ จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความอดทนในการปลูกฝังนิสัยชอบออกกำลังกายให้แก่เขา
🏐 ออกกำลังร่วมกันทั้งครอบครัว ซึ่งมีผลพลอยได้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว และช่วยลดช่องว่างระหว่างวัย
🏉 อย่าไปเน้นเรื่องการแข่งขันเอาแพ้-ชนะ เด็กแต่ละคนมีความสามารถทางกีฬาแตกต่างกัน แต่ทุกคนควรได้รับการส่งเสริมให้ออกกำลัง ไม่ว่าจะวิ่งเข้ามาที่หนึ่งหรือที่โหล่
🎳 วางแผนระยะยาว มิใช่ท่านต้องการเพียงอวดคนอื่นว่า มีลูกชายวัยสิบขวบเป็นนักวิ่ง แต่ควรวางแผนให้เขาสนใจรักษาสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกายชั่วชีวิต
⛳ เลิกเปรียบเทียบลูกของท่านกับเด็กอื่นๆ เพราะรังแต่จะทำให้เขาใจฝ่อห่อเหี่ยว
🏏 สนใจไต่ถามลูกเกี่ยวกับชั่วโมงพละศึกษาที่โรงเรียนบ้าง โดยมากเรามักเพ่งเล็งแต่การเรียนด้านวิชาการ
🏓 จำกัดการดูโทรทัศน์
ผู้เขียนเชื่อว่า คำแนะนำสิบข้อนี้คงจะช่วยเหลือท่านผู้ปกครองในการปลูกฝังนิสัยรักการออกกำลังให้แก่ลูกหลานได้บ้าง และนั่นจะเป็นมรดกล้ำค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความรู้ด้านการประกอบอาชีพ
คงไม่มีประโยชน์มากนัก ถ้าลูกท่านเป็นคนเก่งสารพัด แต่มีร่างกายอ่อนแอ ขี้โรค หรือว่าอายุสั้น